วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ทำไม? ผู้ชายมีนม


คุณๆ เคยสงสัยไหมว่าทำไมผู้ชายถึงต้องมีนม เพราะดูๆ ไปเต้านมของผู้ชายไม่ได้มีไว้ใช้ประโยชน์เหมือนอย่างผู้หญิง ที่เวลามีลูกก็เอาไว้ให้นมลูกได้ การที่ผู้ชายมีนมนั้น นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่าตั้งแต่ขั้นแรกมนุษย์ทุกคนจะเริ่มต้นด้วยการเป็นกลุ่มเซลล์ในท้องแม่ที่เรียกว่า "ฟีตัส" ซึ่งภายหลังจะแบ่งหน้าที่กันอย่างรวดเร็วเพื่อไปทำหน้าที่อวัยวะต่างๆ
ในระยะสัปดาห์ที่ 5 ฟีตัสจะสร้างแกนกลางขึ้นมาที่ต่อมาคือกระดูกสันหลัง และสัปดาห์ที่ 6 จึงค่อยมีโครงสร้าง ของดวงตา แขนขาและใบหน้า และตอนนี้เองจะมีหางเล็กๆ โผล่ออกมาด้วย ในสัปดาห์ที่ 6 นี้เองที่ฟีตัสจะมีเพศ ถ้าได้โครโมโซมเพศชาย คือ วาย ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายจะสร้างอวัยวะเพศชายขึ้นมา แต่ถ้าได้โครโมโซมเพศหญิง คือ เอ็กซ์ ก็จะสร้างอวัยวะเพศหญิง
ความลับของการพัฒนาของฟีตัสอยู่ตรงนี้ นั่นคือก่อนที่ฮอร์โมนเพศจะสำแดงผล ทารกจะมีหน้าอกและเต้านมอยู่ก่อนแล้ว คือผู้ชายมีหน้าอกและเต้านม ก่อนที่จะได้เป็นเพศชายเสียอีก

อันตราย! อย่าเข้าใจว่าแว่นสีดำๆ นั้น กันรังสียูวีได้


แว่นกันแดดคุณภาพ ต้องกันรังสียูวี 98-100%เมืองไทยมีแสงแดดร้อนแรงทุกวัน เสี่ยงกับการเป็นตาต้อ ม่านตากล้ามเนื้อตามเสื่อมสภาพ แว่นกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่จะเลือกแว่นกันแดดแบบไหนถึงจะกั้นรังสียูวีได้นั้น นายแพทย์โดนัลด์ ดีอมิโก ผู้อำนวยการแผนกจักษุของโรงพยาบาลนิวยอร์กเพรสไบรีเรียนแนะนำว่า "ต้องเลือกอันที่กันรังสียูวีได้อย่างน้อย 98%"

ในสหรัฐนั้นกฎหมายที่เกี่ยวกับการระบุคุณภาพแว่นกันแดดนั้นไม่เข้มงวด บริษัทผลิตแว่นตาในสหรัฐจึงระบุแต่เพียงว่า "กันรังสียูวี" หรือไม่ก็ "ป้องกันรังสียูวีเกือบทั้งหมด" ซึ่งเสียเงินซื้อแว่นกันแดดเหล่านี้ไปเสียเปล่าๆ ไม่เหมือนกับยุโรปที่สหภาพยุโรปมีกฎหมายระบุไว้เลยว่า แว่นกันแดดที่กันรังสียูวีได้ 100% นั้นในฉลากต้องระบุไว้ว่าอยู่ในระดับ "3" ส่วนระดับ "2" นั้นคือ พอเพียงแก่กันรังสียูวี

ยูวี เป็นชื่อย่อของรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต เป็นรังสีที่มีความเข้มสูงและเป็นรังสีที่มองไม่เห็น ซึ่งพระอาทิตย์นั้นจะปล่อยรังสียูวีออกมา 3 ชนิดคือ ยูวีเอ ยูวีบีและยูวีซี โดย "ยูวีเอ" เป็นรังสีที่ทำให้ผิวหนังเ***่ยวย่น อาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง และเป็นรังสีที่ทะลุผ่านชั้นบรรยากาศลงมาได้มากที่สุดคือถึง 98% "ยูวีบี" ทำให้ผิวหนังไหม้ ส่งผลกระทบต่อดวงตา เป็นตัวการของโรคมะเร็ง ส่วน "ยูวีซี" จะถูกกั้นโดยบรรยากาศ ไม่สามารถลงมาบนพื้นโลกได้

** คุณหมอดีอมิโกยังกล่าวด้วยว่า แว่นตาที่มีเลนส์สีดำๆ นั้น ไม่ได้กันรังสียูวีอย่างที่หลายคนเข้าใจ แว่นตาราคาถูกมากๆ จะไม่กันรังสียูวีเช่นกัน และอาจเป็นอันตรายต่อดวงตา มากกว่าการไม่ใส่แว่นเสียอีก เนื่องจากแว่นที่ดำมากๆ จะกั้นแสงทำให้แก้วตาพอง ถ้าอยากรู้ว่าแว่นของเรากันแดดอย่างน้อย 98% หรือไม่ คุณหมอแนะนำว่า ให้เอาแว่นนี้ไปตรวจกับจักษุแพทย์ได้เลย เพราะโรงพยาบาลมีเครื่องมือเพียบพร้อมที่จะตรวจ
แล้วอย่าลืม ถนอมดวงตาด้วยการสวมแว่นกันแดดเมื่อออกไปข้างนอกกันล่ะ (แว่นกันแดดที่กันรังสียูวีด้วยนะ)
คนที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ ขออธิบายเพิ่มว่าอย่าเข้าใจว่า แว่นตาสีดำนั้นจะกันรังสียูวีได้แน่นอน (ในกรณีนี้จริงๆ แล้วอาจจะไม่ใช่เฉพาะแค่สีดำ แต่อาจจะเป็นสีอื่นๆ ด้วย ที่วางขายถูกๆ ตามตลาด อันละ 199 น่ะค่ะ)

เพราะคนส่วนใหญ่ มักเข้าใจว่า แว่นตาสีเข้มๆ จะกันรังสียูวีได้ ความจริงแล้วไม่ใช่
หากอยากได้ที่กันแดด กันรังสียูวีได้ ควรเลือกซื้อแว่นตาตามร้านที่เชื่อถือได้ หรือไม่ก็ให้แพทย์เค้าตรวจสอบแว่นตาให้
พอจะเข้าใจบ้างไหมคะ หากไม่เข้าใจโปรดอ่านทวนซ้ำๆ หลายๆ รอบและนึกตามค่ะแว่นกันแดดคุณภาพ ต้องกันรังสียูวี 98-100%

6 วิธีทำลายสมอง

ต่อไปนี้เป็นวิธีหรือคู่มือการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
1.โกหกเป็นประจำการโกหกเป็นประจำทำให้สมองต้องทำงานหนักกว่าปกติ จริงๆ แล้วสมองของคนเรายิ่งทำงานหนักก็ยิ่งดี และมีข้อมูลจากการศึกษาทดลองทั้งกับสัตว์ทดลองและกับมนุษย์เองโดยตรงที่สนับสนุนเรื่องนี้ แต่การทำงานหนักของสมองมีอยู่ 2 อย่างคือ หนึ่ง : ทำงานหนักในด้านดี ด้านสร้างสรรค์ และสอง : ทำงานหนักในด้านไม่ดี ไม่สร้างสรรค์ เฉพาะการใช้สมองทำงานหนักในด้านสร้างสรรค์เท่านั้น จึงจะทำให้สมองมีประสิทธิภาพดียิ่งๆ ขึ้นไปแต่คนโกหกเป็นประจำ สมองต้องทำงานหนักเป็นพิเศษในการที่จะต้องพยายามจำสิ่งที่ได้โกหกเอาไว้ และก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนของการใช้สมองทำงานหนักอย่างไม่สร้างสรรค์ การโกหกเป็นประจำจึงเป็นวิธีหนึ่งที่แน่นอน ทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
2.คิดในทางไม่ถูกต้องการใช้สมองคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง เป็นอีกวิธีหนึ่งของการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อย่างแน่ชัด การคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง คือ ผิดทำนองคลองธรรม ผิดกระบวนการ ผิดจริยธรรม ผิดจรรยาบรรณ ผิดกฎหมาย ตัวอย่างเช่น การคิดหาทางร่ำรวยทางลัด การเจริญก้าวหน้าในด้านอาชีพโดยวิธีการทางลัด โดยทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นการคดโกง การประจบผู้บังคับบัญชา การวางแผนทำลายเพื่อนร่วมงานเพื่อตนเองจะได้รับตำแหน่งแทน การคิดหาช่องทางกอบโกยผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ เช่น การคอร์รัปชัน การแสวงหาผลประโยชน์ทับซ้อน โดยวิธีการที่แยบยล หรือผิดกฎหมาย ผิดประเพณีปฏิบัติที่ดีงาม โดยที่ไม่ต้องได้รับการลงโทษ เหล่านี้เป็นวิธีที่แน่นอนอีกวิธีหนึ่งในการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
3.หมกมุ่นอบายมุขการคิดหมกมุ่นอยู่กับอบายมุข เช่น การพนัน คลั่งหวย ฯลฯ ทำให้สมองต้องทำงานหนักทั้งเวลาตื่นและหลับ เพราะเวลาตื่นก็จะหมกมุ่นหาแต่อาจารย์เด็ด เลขเด็ด ตีความหมายของการฝันให้เป็นตัวเลข เวลาหลับก็จะฝันแต่เรื่องเป็นตัวเลข พบเห็นสิ่งผิดปกติในธรรมชาติก็จะคิดเป็นตัวเลข การหมกมุ่นกับอบายมุขทำลายทั้งประสิทธิภาพการทำงานของสมองและคุณภาพชีวิต
4.(เจ้า) คิด (เจ้า) แค้นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นประจำจะมีสภาพเป็นคนหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ไม่เป็นมงคล สมองจะถูกทำลายเสมือนหนึ่งถูกอาบด้วยยาพิษเป็นประจำ ก็จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลในการทำลายสมอง
5.เครียด ฟุ้งซ่านความเครียด ความฟุ้งซ่าน ทำให้สมองต้องทำงานหนักอย่างผิดทาง ทำให้สมองหลั่งสารหรือขาดสารบางอย่างที่หล่อเลี้ยงและกระตุ้นให้สมองได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดอาการซึมเศร้าหรือฟุ้งซ่านอย่างหนัก ถึงขั้นขาดสติยั้งคิดทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย
6.ไม่ยอมคิดตรงกันข้ามกับคนที่คิดมากอย่างผิดทาง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงอย่างหนัก ก็คือคนที่ไม่ยอมคิดอะไรเป็นพิเศษขึ้นมาเลย นอกเหนือไปจากการคิดเพื่อชีวิตอยู่ไปวันๆ เช่น การกินอาหาร การทำงานตามหน้าที่อย่างเคร่งครัดเท่านั้น เผินๆ อาจดูคล้ายผู้บรรลุในสัจจะแห่งชีวิตและธรรมแบบ “เต๋า”

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ตลับแป้ง USB Card Reader !!

ตลับแป้ง USB Card Reader !!

อุปกรณ์อ่านการ์ดชนิดต่างๆ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Card Reader มีออกมาจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ
และนี่คืออีกรูปแบบหนึ่งเอาใจสาวๆ โดยเฉพาะ เพราะว่านอกจากจะอ่านการ์ดความจำต่างๆ ได้แล้ว
มันยังมีกระจกมาให้ส่องอีกด้วย แบบนี้พกใส่กระเป๋าถือไว้ได้ตลอดเวลาเลยล่ะ... USB Mirror Card Reader
นี้มีสองสีให้เลือก ระหว่างสีน้ำเงินกับสีเทา จำหน่ายอยู่ที่ราคา 15 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 500 บาทเท่านั้น

ซึ่งจริงๆ แล้วความคิดในเรื่องนี้ มันก็ไม่ยากมากนักในการจะนำกระจกมาติดตั้งเพิ่มเติม ซึ่งมันก็เหมือนกับ
การพกตลับแป้งไว้ในกระเป๋านั่นเอง แต่นี่คุณสามารถโอนถ่ายภาพหรือวิดีโอ ที่อยู่ในกล้องดิจิตอลลงบน
คอมพิวเตอร์ได้ทันที และเมื่อเวลาไม่ใช้งาน ก็สามารถนำมันมาส่องดูใบหน้าแทนได้เลย Card Reader

รุ่นนี้จะสามารถอ่านการ์ดต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น SD Card, SDHC, Memory Stick หรือ MMC Card
เป็นต้น แต่น่าเสียดายที่มันอ่าน xD Card ไม่ได้ โดยจะโอนถ่ายข้อมูลผ่านทางพอร์ตมาตรฐาน USB 2.0
ใช้งานได้ทั้งวินโดวส์และ Mac OS X แถมมีขนาดเล็กกะทัดรัดแค่ 64x55x20 มิลลิเมตร หนัก 50 กรัมเท่านั้น


วิธีแก้อาการสะอึก


7 วิธีแก้อาการสะอึก


1.ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับลิ้นเอาไว้แล้วดึงออกมาข้างหน้าแรงๆ เพื่อช่วยเปิดหลอดลมที่ปิดอยู่

2.กลั้นหายใจเอาไว้โดยการนับ 1 – 10 แล้วหายใจออก จากนั้นดื่มน้ำตามทันที

3.ดื่มน้ำเย็นจัดช้าๆ โดยดื่มตลอดเวลา และกลืนติดๆ กัน ไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการสะอึกหาย หรือจนกลั้นหายใจไม่ได้

4.เขี่ยภายในรูจมูกให้จาม

5.ให้พยายามกลืนน้ำตาลทรายขาวประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ โดยไม่ต้องใช้น้ำ

6.ทำให้เกิดอารมณ์รุนแรง เช่น โกรธ ตื่นเต้น หรือกลัว

7.ถ้าลองทำทั้งข้อ 1-6 แล้วไม่ดีขึ้น อาจจะต้องไปพบแพทย์เพื่อใช้ยาบางตัวช่วย เช่น Lagactil,Baclofen หรือกลุ่มยาช่วยย่อย เช่น Cisapride,Omperazole เป็นต้น


แฟชั่นอินเทรนด์ "กระเป๋าโน้ตบุ๊ก"

แฟชั่นอินเทรนด์ "กระเป๋าโน้ตบุ๊ก"

กระเป๋าโน้ตบุ๊ก มีให้เลือกทั้งแบบสะพายข้าง สายสั้น-ยาว หรือเป็นแบบกระเป๋าเป้สะพายติดหลัง โดยเหล่านักออกแบบเติมความเป็นแฟชั่นเข้าไปได้อย่างลงตัว จนทำให้บางแบบดูไม่เหมือนกระเป๋าที่ใช้ใส่โน้ตบุ๊กแม้แต่น้อย



ภายในกระเป๋า ถูกออกแบบให้มีช่องใส่สัมภาระหลายแห่ง เพื่อเก็บอุปกรณ์เสริมต่างๆ มีสายล็อคเพื่อยึดตำแหน่งโน้ตบุ๊ก ที่สำคัญยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับใส่กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องสำอาง ให้ผู้ใช้เก็บทุกอย่างไว้ได้ด้วยกระเป๋าเพียงใบเดียว

วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

แยมโรล



วิธีทำแยมโรลแบบง่ายๆ
ส่วนผสม
น้ำตาล ๓/๔ ถ้วย ร่อนซะหน่อยค่ะ
การร่อนแป้ง ถ้าไม่ใช่แป้งเค้ก ร่อนซัก ๓ ครั้งค่ะ ถ้าเป็นแป้งเค้กก็ร่อนครั้ง เดียวพอหลังจากที่ร่อนแล้วตวงเอา ๓/๔ ถ้วย แล้วเอามาร่อนพร้อมกับผงฟู ๓/๔ ช้อนชา และเกลือ ๑/๒ ช้อนชา พักไว้ ค่ะ
ไข่ ๔ ฟอง
วานิลา ๑ ช้อนชา
แยมสำหรับทำไส้
น้ำตาลป่นนิดหน่อย ซัก ๒-๓ ช้อน โต๊ะค่ะ เอาไว้โรยบนผ้าขาวที่จะวางขนม

วิธีทำ
1.แยกไข่ขาว ไข่แดง พักไข่แดง ไว้ก่อน นำไข่ขาวไปตีจนขึ้นฟู ไข่ขาวที่ตีแล้ว เอาออกใส่ชามพักไว้ค่ะ

2.ตีไข่แดงให้ขึ้นเป็นสีครีม ค่อยๆ ใส่น้ำตาลที่ร่อนและตวงเตรียมไว้จน หมด ตีจนขึ้นเป็นสีนวล แล้วเติมวานิลา ค่ะ ตีต่อจนเข้ากัน

3.ค่อยๆคนแป้งที่ตวงและร่อน พร้อมกับผงฟูและเกลือไว้ลงไปใน ไข่แดงที่ตีจนขึ้นเมื่อกี๊นี้ ค่อยๆคนจนเข้ากัน

4.ค่อยๆคนไข่ขาวที่ตีไว้ลงไป ค่อยๆคน จากก้นชามขึ้นนะคะ คนพอให้เข้ากัน อาจยังเห็นไข่ขาวเล็กน้อยก็ได้ค่ะ

5.ใช้ถาดอบคุกกี้นะคะ คือถาดที่แบนๆค่ะ ทาเนยขาวที่ก้นถาด แล้วเอากระดาษ สำหรับรองอบขนมที่เรียกว่า Parchment paper ทาเนยขาวก้นกระดาษอีกที

6.เทขนมที่ตีไว้ให้ทั่วก้นถาด พยายาม เกลี่ยให้ถึงมุมทุกมุม เกลี่ยๆ พอเรียบ

7.อบไฟ ๓๗๕ องศาฟาเรนไฮต์ แค่ ๑๒ นาที คอยดูพอให้เป็นสีนวลสวยค่ะ อย่าให้เกรียม เดี๋ยวม้วนยาก

8.พอออกมาก็คว่ำลงบนผ้าขนหนูสะอาด โรยด้วยน้ำตาลป่นนะคะ ลอกกระดาษ ออกค่ะ ใช้มีดขลิบริมออก นิดเดียวก็พอค่ะ แค่ตัดขอบที่แข็งๆออก จะได้ไม่แตกเวลาม้วน

9.ใช้ผ้าที่รองขนมอยู่ ช่วยม้วนเพื่อให้ ม้วนได้ง่ายหลังจากที่ทาไส้นะคะ หลังจากนั้นคลี่ออก

10.ถ้าเป็นแยมทาได้ เลย ถ้าเป็นครีม รอให้ขนมเย็นสนิทก่อน ไม่ต้องทาหนา เดี๋ยวเลอะออกมา

11.ทาเสร็จก็ม้วนอีกที ม้วนแล้ว วางให้ตะเข็บ ลงทิ้งไว้ให้อยู่ตัว เวลาหั่น ใช้มีดคมๆ เช็ดมีด หลังจากหั่น จะได้ไม่เปื้อนชิ้นต่อไป

12.เสริฟ

หญิงอ้วนเสี่ยงสูงเป็นมะเร็งตับอ่อน

หญิงอ้วนเสี่ยงสูงเป็นมะเร็งตับอ่อน

สถาบันคาโรลินสกา ในสวีเดน เสนอผลการวิจัยที่นำมาตีพิมพ์ลงในวารสารมะเร็งของอังกฤษ ระบุว่า สตรีที่ปล่อยให้มีไขมันส่วนเกินสะสมที่หน้าท้องมาก ๆ จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งที่ตับอ่อนสูงกว่าสตรีที่ไม่มีไขมันหน้าท้องถึง 70%

งานวิจัยชิ้นนี้แย้งกับความเชื่อก่อนหน้านี้ว่า ความอ้วนจะทำให้ผู้ชายเสี่ยงเป็นโรคภัยไข้เจ็บมากกว่าผู้หญิง แต่สำหรับผลการวิจัยล่าสุด ซึ่งสำรวจจากผู้หญิงชาวอเมริกันจำนวนกว่า 138,000 คน ในวัยหมดประจำเดือน เป็นเวลานาน 7 ปี พบว่าความอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อสตรีในการเป็นมะเร็งได้เช่นกัน โดยมีผู้หญิง 251 คน ในจำนวนนี้ที่ป่วยเป็นมะเร็งที่ตับอ่อน ซึ่งหลังจากพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่จะก่อมะเร็ง เช่น การสูบบุหรี่ พบว่า ขนาดเส้นรอบเอวของผู้หญิงซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงความอ้วน มีผลอย่างสำคัญต่อความเสี่ยงมากหรือน้อยที่จะเป็นมะเร็งตับอ่อน
ดร.จูฮัว ลูโอ หัวหน้าคณะนักวิจัยระบุว่า ความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสตรีอ้วนในวัยหมดประจำเดือน
ซึ่งมะเร็งชนิดนี้คร่าชีวิตชาวอังกฤษเป็นอันดับ 6 ในมะเร็งทุกชนิด และบ่อยครั้งที่แพทย์ตรวจพบมะเร็งชนิดนี้ก็ต่อเมื่ออยู่ในระยะแพร่กระจายไปตามอวัยวะต่าง ๆ แล้วเท่านั้น ดังนั้นจึงยากที่จะประสบความสำเร็จในการรักษา มีผู้ป่วยเพียง 2-3% ที่รอดชีวิตเกิน 5 ปี หลังจากถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง นักวิจัยเชื่อว่าความอ้วนเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งตับอ่อน เพราะความอ้วนส่งผลต่อระดับอินซูลินในร่างกาย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงความอ้วนด้วยการปรับเปลี่ยนนิสัยให้หันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีตัวเลขพบว่าจำนวน 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS

อาหารต้องห้ามยามเป็นโรค


อาหารต้องห้ามยามเป็นโรคเคล็ดกิน" จะมาไขข้อข้องใจให้ว่า..."ของแสลง" ก็คือบรรดาอาหารที่ไม่ถูกกับโรคทั้งหลายแหล่แต่บางที ก็ทำให้เรางงเหมือนกันว่าเกี่ยวกันยังไงแต่ของอย่างนี้ "108 เคล็ดกิน" บอกว่าอย่าลบหลู่เพราะขึ้นชื่อว่าภูมิปัญญาชาวบ้านแล้วไซร้ ฟังหูไว้หูก็ดีเหมือนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 10 โรคที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้

1. เป็นไข้หวัดมีไข้สูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารไม่สุก อาหารที่เย็นมากๆอาหารทอด อาหารมัน ซึ่งเป็นอาหารที่ย่อยยากจะทำให้เกิดความร้อนสะสม เปรียบเสมือนอาหารเชื้อเพลิงหรือเป็นการเติมน้ำมันเข้าไปในกองไฟ

2. โรคกระเพาะควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ชาแก่ๆ กาแฟของเผ็ด ของทอด ของมัน เพราะอาหารเหล่านี้ ทำให้เกิดความร้อนสะสมทำให้โรคหายยาก ทางที่ดีควรจะรับประทานอาหารปริมาณน้อยๆแต่บ่อยครั้ง รับประทานอาหารให้ตรงเวลา และเป็นอาหารที่ย่อยง่าย
3. โรคความดันเลือดสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่มักมีปัญหาเลือดเลือดแข็งตัวขาดความยืดหยุ่น ควรหลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารที่มีคอเรสเตอรอลสูงเช่น หมูสามชั้น ไขกระดูก ไข่ปลา โกโก้ รวมทั้งเหล้าเพราะอาหารเหล่านี้ทำให้เกิดความร้อนชื้นสะสมในร่างกายและความชื้นก็มีผลก็ทำให้เกิดความหนืดของการไหลเวียนทุกระบบในร่างกายและความร้อนก็จะไปกระตุ้นทำให้ความดันสูง นอกจากนี้...ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด หรืออาหารหวานมากรวมทั้งผลไม้อย่างลำไย ขนุน ทุเรียน

4. โรคตับและถุงน้ำดีหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาหารมันเนื้อติดมัน เครื่องในสัตว์ อาหารทอด อาหารหวานจัดเพราะแพทย์จีนถือว่า ตับและถุงน้ำดีมีความสัมพันธ์กับระบบย่อยอาหารการได้อาหารประเภทดังกล่าวมากเกินไปจะทำให้สมรรถภาพของการย่อยอาหารอ่อนแอลงและเกิดโทษต่อตับและถุงน้ำดีอีกต่อหนึ่ง

5. โรคหัวใจและโรคไตควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดเพราะจะทำให้มีการเก็บกักน้ำ การไหลเวียนเลือดจะช้าทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ไตต้องทำงานขับเกลือแร่มากขึ้นส่วนอาหารรสเผ็ดก็ควรหลีกเลี่ยงเพราะทำให้กระตุ้นการไหลเวียนสูญเสียพลังงานและหัวใจก็ทำงานหนักขึ้นเช่นกัน

6. โรคเบาหวานหลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน หรือแป้งที่มีแคลอรี่สูงเช่น มันฝรั่ง มันเทศควรรับประทานอาหารพวกถั่วเช่น เต้าหู้ นมวัว เนื้อสันไม่ติดมัน ปลา ผักสด

7. นอนไม่หลับหลีกเลี่ยงชา กาแฟ (รวมทั้งการสูบบุหรี่)เพราะอาหารเหล่านี้ มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ไม่ง่วงนอนหรือนอนไม่หลับสนิท

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

7 พืชผักที่ดีต่อ สุภาพสตรีโดยตรง



ผู้คนส่วนใหญ่ต่างรู้ประโยชน์ของผลไม้หรือผักว่ามีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย แต่เชื่อไหมว่า ผลไม้บางชนิด มีแร่วิตามินและแร่ธาตุที่พิเศษแตกต่างกันออกไป
มีพืชผักผลไม้อยู่ 7 ชนิด ที่มีผล "โดยตรง" กับสุขภาพของ "ผู้หญิง"
ลูกพรุน : เป็นแหล่งโปแตสเซียม เหล็ก และไฟเบอร์ ที่สำคัญลูกพรุนช่วยทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด คงความเป็นหนุ่มเป็นสาว คนเรานั้นเมื่อผ่านช่วงสดใสของชีวิตคือวัย 25 ปี ร่างกายจะเริ่มเสื่อมโทรม ไขมันเริ่มเข้าสะสมตามที่ต่างๆ ใบหน้าที่เคยเอิบอิ่มด้วยเลือดฝาดก็เริ่มหมองคล้ำ ผิวพรรณจากสีชมพูระเรื่อก็เริ่มซีดโทรม ธาตุเหล็กที่มีมากในลูกพรุน จะช่วยดูแลเรื่องนี้ ควบคู่กับภาวะที่สตรีต้องสูญเสียเลือดและธาตุเหล็กไปกับประจำเดือนอีกด้วย
ถั่ว : อุดมไปด้วยโปรตีน เหล็ก และวิตามินบี นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เมื่อรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ (ซึ่งมีในถั่วมาก) ไฟเบอร์จะเคลือบผิวกระเพาะ ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อิ่มนาน ความอยากอาหารจะลดลง แต่ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่มากด้วย จึงไม่เหมือนไฟเบอร์อื่นๆ ที่ไม่ให้สารอาหารที่มีคุณค่ากับร่างกาย นั่นทำให้ผู้หญิงรูปร่างดีโดยที่ไม่ขาดสารอาหารด้วย
บรอคโคลี : เป็นแหล่งซีลีเนียมตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูอ่อนนุ่มมีน้ำมีนวลเหมือนหนุ่มสาว แถมยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้
กล้วย : ในกล้วยไข่มีสารเบต้าแคโรทีน ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เมื่อเราอายุเลย 22 ปีไปแล้ว ความเจริญเติบโตของร่างกายจะเริ่มหยุดชะงัก ความเสื่อมของร่างกายเริ่มมาเยือนช้าๆ ทำให้เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์ผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้น นอกจากนั้นเมื่อร่างกายเสื่อมสภาพ ความสามารถในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอก็จะลดลงเรื่อยๆ พร้อมกันนั้นความสามารถในการจำกัดอนุมูลอิสระก็ลดลงอย่างตกใจ ดังนั้นสาวๆ ควรสนใจรับประทานกล้วย โดยเฉพาะกล้วยไข่ให้มากขึ้นก็จะยอดมาก!
ฝรั่ง : เชื่อหรือไม่ว่าฝรั่ง 1 ขีด มีวิตามินซีสูงถึง 180 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีนี้มีบทบาทในการสร้าง "คอลลาเจน"ที่ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ยืดหยุ่น ไม่หย่อนยานก่อนวัย
แอปเปิ้ล : มีสารอาหารที่สำคัญคือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ชื่อ "เพคติน" ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนัก และลดคอเลสเตอรอล ยามใดก็ตามที่หิวจนกินช้างหมดตัวได้ กินแอปเปิ้ลสักลูกจะดีกว่ามากๆ เลย (จริงๆ นะ)
ส้ม : แหล่งวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรมชาติอันอุดม รู้ไหมว่า การรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้อิ่มท้องเร็ว เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียว

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เรื่องที่คุณควรรู้

เรื่องที่คุณควรรู้

ทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก
-ทวีปเอเซีย
ทวีปที่เล็กที่สุดในโลก
-ทวีปออสเตรเลีย
ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
-รุสเซียเนื้อที่ 47,800,500 ตารางไมล์
ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก
-โมนาโคเนื้อที่ 0.50 ตารางไมล์
ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
-สาธารณรัฐประชาชนจีน1228 ล้านคน ในปี 1994
ประเทศที่มีประชากรน้อยที่สุดในโลก
-วาติกัน ประมาณ 800 คน
มหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
-แปซิฟิค
มหาสมุทรที่เล็กที่สุดในโลก
-อาร์คติก
ทวีปที่ร้อนที่สุดในโลก
- อัฟริกา
ทวีปที่เย็นที่สุดในโลก
-แอนตาร์ติก
ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
-ทะเลจีน
ทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในโลก
-ทะเลสาปแคสเปียน ในรุสเซีย
ทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- ทะเลสาปสุพีเรีย ในสหรัฐอเมริกา
ทะเลสาปน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก
-ทะเลสาปแคสเปียน ในรุสเซีย
ทะเลที่ลึกที่สุดในโลก
-ทะเลสาปไบคาล ในรุสเซีย
ทะเลที่อยู่สูงที่สุดในโลก
- ทะเลสาปอัสกาลชิน ในธิเบต
แม่น้ำที่กว้างที่สุดในโลก
- แม่น้ำอเมซอน ในทวีปอเมริกาใต้ 270 ไมล์

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม

อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านม ถือเป็นเพชฌฆาตร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงทั่วโลกเป็นอันดับต้นๆ และในประเทศไทยมีผู้หญิงป่วยเป็นโรคร้ายชนิดนี้มากเป็นอันดับสองรองจากมะเร็งปากมดลูก จากสถิติทางการแพทย์ยังบ่งชี้ด้วยว่า สาวเมืองกรุงมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าสาวชนบท เพราะใช้ชีวิตรีบเร่งไม่มีเวลาดูแลสุขภาพตัวเอง, ขาดการออกกำลังกาย และเป็นโรคเครียดสะสม ในเวทีสัมมนา “Wacoal Cares Your Breasts” เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม และเคล็ดลับการดูแลตนเองให้มีสุขภาพดี ห่างไกลมะเร็งเต้านม อันเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมสร้างสรรค์ภายในงาน SAHA GROUP EXPORT & TRADE EXHIBITION ครั้งที่ 12 ที่ศูนย์ การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.กริช โพธิสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านมะเร็งเต้านม จากภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราช พยาบาล เล่าถึงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ ผู้หญิงยุคใหม่เป็นมะเร็งเต้านมว่า ผู้หญิงยุคปัจจุบัน มีบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบมากขึ้น ทำให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความรีบเร่ง จนไม่มีเวลาดูแลสุขภาพตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน หลายคนหันมานิยมบริโภคอาหารสำเร็จรูป และฟาสต์ฟู้ดซึ่งอุดมไปด้วยแป้งและไขมันสูง ขณะเดียวกัน ก็ไม่มีเวลาออกกำลังกาย, พักผ่อนไม่เพียงพอ, สูบบุหรี่กินเหล้า และปล่อยให้ความเครียด สะสม ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่เป็นตัวการกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านม


สำหรับปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป มีอาทิ ประวัติครอบครัว ถ้ามีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม มีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติสองเท่า, ขนาดของเต้านมก็เป็นปัจจัยสำคัญ ผู้หญิงที่มีเต้านมใหญ่มีความเสี่ยงสูงกว่าผู้หญิงเต้านมเล็ก, ผู้หญิงที่ไม่มีลูก หรือมีลูกคนแรกหลังอายุ 30 ปี มีความ เสี่ยงสูงเช่นกัน ขณะที่ผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดต่อเนื่องนาน 10 ปีขึ้นไป หรือใช้ยาคุมกำเนิดตั้งแต่อายุน้อยๆ กลุ่มนี้ก็เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม


ถ้าอยากห่างไกลจากมะเร็งเต้านม คุณหมอแนะนำว่า ทางที่ดีผู้หญิงทุกคนควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพมากขึ้น โดยเริ่มตรวจเต้านมด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 20 ปี และเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป ควรรับการตรวจแมมโมแกรม และอัลตราซาวนด์ เพื่อตรวจหาเซลล์มะเร็ง เป็นประจำทุกปี เนื่องจากยิ่งตรวจพบเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสามารถรักษาให้หายเร็วเท่านั้น นอกจากนี้ ยังต้องหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมลง 60%, พยายามรับแสงแดดอ่อนๆยามเช้าสม่ำเสมอ จากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ได้รับแสงแดดอ่อนๆสม่ำเสมอ มีแนวโน้มเป็นมะเร็งเต้านมน้อยลงถึง 40% เคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้ปลอดภัยจากโรคร้าย ยังรวมถึงการงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, นอนหลับให้เพียงพอ และมองโลกในแง่ดี.

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เรื่องจริง...เปลี่ยนสีผมบ่อยเสี่ยงมะเร็ง


เรื่องจริง..เปลี่ยนสีผมบ่อยเสี่ยงมะเร็ง


สาวๆ คนไหนที่นิยมการย้อมสีผมตามแฟชั่น ไม่ว่าจะสีอะไร โทนไหนที่กำลังอินเทรนด์เป็นต้องเปลี่ยนกันตลอด เรียกว่าตามเทรนด์ทุกซีซั่นนั้น ขอบอกว่าให้ระวังให้ดี เพราะคุณอาจเป็นมะเร็งได้ บรื๋อ!! ผลจากการวิจัยจากประเทศรัสเซียออกมาแล้วค่ะว่าในน้ำยายอมสีผมมีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งและโรคร้ายอื่นๆ ตามมาได้ อันนี้ก็สำหรับคนที่ต้องย้อมสีผมเกินกว่า 9 ครั้ง ภายใน 1 ปี


จะมีความเสี่ยงต่อโรคลูคีเมียหรือมะเร็งในเม็ดเลือด โรคเนื้องอกในสมอง และโรคมะเร็งในต่อมน้ำเหลืองได้ง่าย กว่าคนทั่วไปตั้ง 60 % และน้ำยาสีผมที่วางจำหน่ายก่อนปี ค.ศ.1980 จะมีส่วนผสมของสารพิษต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งถึง 70% เลยทีเดียวซ้ำมันยังสามารถพัฒนาไปสู่การติดเชื้อมในเม็ดเลือดได้อีกด้วย


สำหรับผู้ที่ใช้น้ำยาย้อมผมดำ มะเร็งมีโอกาสพัฒนาไปเป็นเนื้องอกในสมอง และมะเร็งในเม็ดเลือดชนิดไม่ลุกลามได้ง่ายขึ้น กว่า 50 % และคนที่เปลี่ยนสีผมหลากสีสันไปมาเรื่อยๆ จะเสี่ยงถึง 70% เพราะฉะนั้นมีการแนะนำว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหันมาใส่ใจกับเรื่องนี้ให้มากขึนและต้องมีมาตรการควบคุมเข้มพวกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสารเคมีต่างๆ ว่าปลอดภัยจริง ก่อนที่จะอนุญาตให้จำหน่ายไปยังร้านค้าและร้านทำผมทั่วไป


แหม....อยากสวยแต่ต้องเสี่ยงขนาดนี้ ลองคิดดูดีๆ นะคะสาวๆ ว่าจะเลือกสวยปลอดภัยแบบธรรมชาติ หรือสวยอันตรายด้วยเคมี ...เป็นห่วงเพื่อนทุกคนชาวที่นี่คร่า.........

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วิธีการทำ Brownie



ส่วนผสม

แป้งอเนกประสงค์ร่อนแล้วตวง 1 ถ้วย
ผงฟู 1/4 ช้อนชา
เนยสด 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
ไข่ไก่ 3 ฟอง
เกลือ 1/2 ช้อนชา
เม็ดมะม่วงหิมพานต์สับหยาบๆ 1 ถ้วย
ช็อคโกแลตดิบหรือโกโก้ผง 30 กรัม

วิธีทำ

ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกัน 3 ครั้ง แล้วพักไว้
ละลายเนย 1/2 ถ้วย กับช็อคโกแลตด้วยไฟอ่อน จนละลายเข้ากันดี
ตีเนยที่เหลือกับน้ำตาลจนขึ้นฟู ใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟองจนหมด ตีจนขึ้นฟู
เติมเนยที่ละลายกับกับช็อคโกแลตแล้วลงไป ผสมให้เข้ากัน ใส่แป้ง และเม็ดมะม่วง ผสมจนเข้ากันดี
เทใส่ถาดขอบตื้นที่ทาเนยและรองกระดาษไขเรียบร้อยแล้ว นำเข้าอบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ นาน 45 นาที หรือจนสุก
นำบราวนี่ที่อบสุกแล้วราดหน้าด้วยซอสช็อคโกแลต ทานคู่กับไอศกรีมรสวานิลลาก็อร่อย แถมยังเป็นของขวัญปีใหม่ได้อีกด้วยค่ะ