วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ทำไม? ผู้ชายมีนม


คุณๆ เคยสงสัยไหมว่าทำไมผู้ชายถึงต้องมีนม เพราะดูๆ ไปเต้านมของผู้ชายไม่ได้มีไว้ใช้ประโยชน์เหมือนอย่างผู้หญิง ที่เวลามีลูกก็เอาไว้ให้นมลูกได้ การที่ผู้ชายมีนมนั้น นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่าตั้งแต่ขั้นแรกมนุษย์ทุกคนจะเริ่มต้นด้วยการเป็นกลุ่มเซลล์ในท้องแม่ที่เรียกว่า "ฟีตัส" ซึ่งภายหลังจะแบ่งหน้าที่กันอย่างรวดเร็วเพื่อไปทำหน้าที่อวัยวะต่างๆ
ในระยะสัปดาห์ที่ 5 ฟีตัสจะสร้างแกนกลางขึ้นมาที่ต่อมาคือกระดูกสันหลัง และสัปดาห์ที่ 6 จึงค่อยมีโครงสร้าง ของดวงตา แขนขาและใบหน้า และตอนนี้เองจะมีหางเล็กๆ โผล่ออกมาด้วย ในสัปดาห์ที่ 6 นี้เองที่ฟีตัสจะมีเพศ ถ้าได้โครโมโซมเพศชาย คือ วาย ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายจะสร้างอวัยวะเพศชายขึ้นมา แต่ถ้าได้โครโมโซมเพศหญิง คือ เอ็กซ์ ก็จะสร้างอวัยวะเพศหญิง
ความลับของการพัฒนาของฟีตัสอยู่ตรงนี้ นั่นคือก่อนที่ฮอร์โมนเพศจะสำแดงผล ทารกจะมีหน้าอกและเต้านมอยู่ก่อนแล้ว คือผู้ชายมีหน้าอกและเต้านม ก่อนที่จะได้เป็นเพศชายเสียอีก

อันตราย! อย่าเข้าใจว่าแว่นสีดำๆ นั้น กันรังสียูวีได้


แว่นกันแดดคุณภาพ ต้องกันรังสียูวี 98-100%เมืองไทยมีแสงแดดร้อนแรงทุกวัน เสี่ยงกับการเป็นตาต้อ ม่านตากล้ามเนื้อตามเสื่อมสภาพ แว่นกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่จะเลือกแว่นกันแดดแบบไหนถึงจะกั้นรังสียูวีได้นั้น นายแพทย์โดนัลด์ ดีอมิโก ผู้อำนวยการแผนกจักษุของโรงพยาบาลนิวยอร์กเพรสไบรีเรียนแนะนำว่า "ต้องเลือกอันที่กันรังสียูวีได้อย่างน้อย 98%"

ในสหรัฐนั้นกฎหมายที่เกี่ยวกับการระบุคุณภาพแว่นกันแดดนั้นไม่เข้มงวด บริษัทผลิตแว่นตาในสหรัฐจึงระบุแต่เพียงว่า "กันรังสียูวี" หรือไม่ก็ "ป้องกันรังสียูวีเกือบทั้งหมด" ซึ่งเสียเงินซื้อแว่นกันแดดเหล่านี้ไปเสียเปล่าๆ ไม่เหมือนกับยุโรปที่สหภาพยุโรปมีกฎหมายระบุไว้เลยว่า แว่นกันแดดที่กันรังสียูวีได้ 100% นั้นในฉลากต้องระบุไว้ว่าอยู่ในระดับ "3" ส่วนระดับ "2" นั้นคือ พอเพียงแก่กันรังสียูวี

ยูวี เป็นชื่อย่อของรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต เป็นรังสีที่มีความเข้มสูงและเป็นรังสีที่มองไม่เห็น ซึ่งพระอาทิตย์นั้นจะปล่อยรังสียูวีออกมา 3 ชนิดคือ ยูวีเอ ยูวีบีและยูวีซี โดย "ยูวีเอ" เป็นรังสีที่ทำให้ผิวหนังเ***่ยวย่น อาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง และเป็นรังสีที่ทะลุผ่านชั้นบรรยากาศลงมาได้มากที่สุดคือถึง 98% "ยูวีบี" ทำให้ผิวหนังไหม้ ส่งผลกระทบต่อดวงตา เป็นตัวการของโรคมะเร็ง ส่วน "ยูวีซี" จะถูกกั้นโดยบรรยากาศ ไม่สามารถลงมาบนพื้นโลกได้

** คุณหมอดีอมิโกยังกล่าวด้วยว่า แว่นตาที่มีเลนส์สีดำๆ นั้น ไม่ได้กันรังสียูวีอย่างที่หลายคนเข้าใจ แว่นตาราคาถูกมากๆ จะไม่กันรังสียูวีเช่นกัน และอาจเป็นอันตรายต่อดวงตา มากกว่าการไม่ใส่แว่นเสียอีก เนื่องจากแว่นที่ดำมากๆ จะกั้นแสงทำให้แก้วตาพอง ถ้าอยากรู้ว่าแว่นของเรากันแดดอย่างน้อย 98% หรือไม่ คุณหมอแนะนำว่า ให้เอาแว่นนี้ไปตรวจกับจักษุแพทย์ได้เลย เพราะโรงพยาบาลมีเครื่องมือเพียบพร้อมที่จะตรวจ
แล้วอย่าลืม ถนอมดวงตาด้วยการสวมแว่นกันแดดเมื่อออกไปข้างนอกกันล่ะ (แว่นกันแดดที่กันรังสียูวีด้วยนะ)
คนที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ ขออธิบายเพิ่มว่าอย่าเข้าใจว่า แว่นตาสีดำนั้นจะกันรังสียูวีได้แน่นอน (ในกรณีนี้จริงๆ แล้วอาจจะไม่ใช่เฉพาะแค่สีดำ แต่อาจจะเป็นสีอื่นๆ ด้วย ที่วางขายถูกๆ ตามตลาด อันละ 199 น่ะค่ะ)

เพราะคนส่วนใหญ่ มักเข้าใจว่า แว่นตาสีเข้มๆ จะกันรังสียูวีได้ ความจริงแล้วไม่ใช่
หากอยากได้ที่กันแดด กันรังสียูวีได้ ควรเลือกซื้อแว่นตาตามร้านที่เชื่อถือได้ หรือไม่ก็ให้แพทย์เค้าตรวจสอบแว่นตาให้
พอจะเข้าใจบ้างไหมคะ หากไม่เข้าใจโปรดอ่านทวนซ้ำๆ หลายๆ รอบและนึกตามค่ะแว่นกันแดดคุณภาพ ต้องกันรังสียูวี 98-100%

6 วิธีทำลายสมอง

ต่อไปนี้เป็นวิธีหรือคู่มือการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
1.โกหกเป็นประจำการโกหกเป็นประจำทำให้สมองต้องทำงานหนักกว่าปกติ จริงๆ แล้วสมองของคนเรายิ่งทำงานหนักก็ยิ่งดี และมีข้อมูลจากการศึกษาทดลองทั้งกับสัตว์ทดลองและกับมนุษย์เองโดยตรงที่สนับสนุนเรื่องนี้ แต่การทำงานหนักของสมองมีอยู่ 2 อย่างคือ หนึ่ง : ทำงานหนักในด้านดี ด้านสร้างสรรค์ และสอง : ทำงานหนักในด้านไม่ดี ไม่สร้างสรรค์ เฉพาะการใช้สมองทำงานหนักในด้านสร้างสรรค์เท่านั้น จึงจะทำให้สมองมีประสิทธิภาพดียิ่งๆ ขึ้นไปแต่คนโกหกเป็นประจำ สมองต้องทำงานหนักเป็นพิเศษในการที่จะต้องพยายามจำสิ่งที่ได้โกหกเอาไว้ และก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนของการใช้สมองทำงานหนักอย่างไม่สร้างสรรค์ การโกหกเป็นประจำจึงเป็นวิธีหนึ่งที่แน่นอน ทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
2.คิดในทางไม่ถูกต้องการใช้สมองคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง เป็นอีกวิธีหนึ่งของการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อย่างแน่ชัด การคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง คือ ผิดทำนองคลองธรรม ผิดกระบวนการ ผิดจริยธรรม ผิดจรรยาบรรณ ผิดกฎหมาย ตัวอย่างเช่น การคิดหาทางร่ำรวยทางลัด การเจริญก้าวหน้าในด้านอาชีพโดยวิธีการทางลัด โดยทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นการคดโกง การประจบผู้บังคับบัญชา การวางแผนทำลายเพื่อนร่วมงานเพื่อตนเองจะได้รับตำแหน่งแทน การคิดหาช่องทางกอบโกยผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ เช่น การคอร์รัปชัน การแสวงหาผลประโยชน์ทับซ้อน โดยวิธีการที่แยบยล หรือผิดกฎหมาย ผิดประเพณีปฏิบัติที่ดีงาม โดยที่ไม่ต้องได้รับการลงโทษ เหล่านี้เป็นวิธีที่แน่นอนอีกวิธีหนึ่งในการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
3.หมกมุ่นอบายมุขการคิดหมกมุ่นอยู่กับอบายมุข เช่น การพนัน คลั่งหวย ฯลฯ ทำให้สมองต้องทำงานหนักทั้งเวลาตื่นและหลับ เพราะเวลาตื่นก็จะหมกมุ่นหาแต่อาจารย์เด็ด เลขเด็ด ตีความหมายของการฝันให้เป็นตัวเลข เวลาหลับก็จะฝันแต่เรื่องเป็นตัวเลข พบเห็นสิ่งผิดปกติในธรรมชาติก็จะคิดเป็นตัวเลข การหมกมุ่นกับอบายมุขทำลายทั้งประสิทธิภาพการทำงานของสมองและคุณภาพชีวิต
4.(เจ้า) คิด (เจ้า) แค้นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นประจำจะมีสภาพเป็นคนหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ไม่เป็นมงคล สมองจะถูกทำลายเสมือนหนึ่งถูกอาบด้วยยาพิษเป็นประจำ ก็จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลในการทำลายสมอง
5.เครียด ฟุ้งซ่านความเครียด ความฟุ้งซ่าน ทำให้สมองต้องทำงานหนักอย่างผิดทาง ทำให้สมองหลั่งสารหรือขาดสารบางอย่างที่หล่อเลี้ยงและกระตุ้นให้สมองได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดอาการซึมเศร้าหรือฟุ้งซ่านอย่างหนัก ถึงขั้นขาดสติยั้งคิดทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย
6.ไม่ยอมคิดตรงกันข้ามกับคนที่คิดมากอย่างผิดทาง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงอย่างหนัก ก็คือคนที่ไม่ยอมคิดอะไรเป็นพิเศษขึ้นมาเลย นอกเหนือไปจากการคิดเพื่อชีวิตอยู่ไปวันๆ เช่น การกินอาหาร การทำงานตามหน้าที่อย่างเคร่งครัดเท่านั้น เผินๆ อาจดูคล้ายผู้บรรลุในสัจจะแห่งชีวิตและธรรมแบบ “เต๋า”

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ตลับแป้ง USB Card Reader !!

ตลับแป้ง USB Card Reader !!

อุปกรณ์อ่านการ์ดชนิดต่างๆ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Card Reader มีออกมาจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ
และนี่คืออีกรูปแบบหนึ่งเอาใจสาวๆ โดยเฉพาะ เพราะว่านอกจากจะอ่านการ์ดความจำต่างๆ ได้แล้ว
มันยังมีกระจกมาให้ส่องอีกด้วย แบบนี้พกใส่กระเป๋าถือไว้ได้ตลอดเวลาเลยล่ะ... USB Mirror Card Reader
นี้มีสองสีให้เลือก ระหว่างสีน้ำเงินกับสีเทา จำหน่ายอยู่ที่ราคา 15 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 500 บาทเท่านั้น

ซึ่งจริงๆ แล้วความคิดในเรื่องนี้ มันก็ไม่ยากมากนักในการจะนำกระจกมาติดตั้งเพิ่มเติม ซึ่งมันก็เหมือนกับ
การพกตลับแป้งไว้ในกระเป๋านั่นเอง แต่นี่คุณสามารถโอนถ่ายภาพหรือวิดีโอ ที่อยู่ในกล้องดิจิตอลลงบน
คอมพิวเตอร์ได้ทันที และเมื่อเวลาไม่ใช้งาน ก็สามารถนำมันมาส่องดูใบหน้าแทนได้เลย Card Reader

รุ่นนี้จะสามารถอ่านการ์ดต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น SD Card, SDHC, Memory Stick หรือ MMC Card
เป็นต้น แต่น่าเสียดายที่มันอ่าน xD Card ไม่ได้ โดยจะโอนถ่ายข้อมูลผ่านทางพอร์ตมาตรฐาน USB 2.0
ใช้งานได้ทั้งวินโดวส์และ Mac OS X แถมมีขนาดเล็กกะทัดรัดแค่ 64x55x20 มิลลิเมตร หนัก 50 กรัมเท่านั้น


วิธีแก้อาการสะอึก


7 วิธีแก้อาการสะอึก


1.ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับลิ้นเอาไว้แล้วดึงออกมาข้างหน้าแรงๆ เพื่อช่วยเปิดหลอดลมที่ปิดอยู่

2.กลั้นหายใจเอาไว้โดยการนับ 1 – 10 แล้วหายใจออก จากนั้นดื่มน้ำตามทันที

3.ดื่มน้ำเย็นจัดช้าๆ โดยดื่มตลอดเวลา และกลืนติดๆ กัน ไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการสะอึกหาย หรือจนกลั้นหายใจไม่ได้

4.เขี่ยภายในรูจมูกให้จาม

5.ให้พยายามกลืนน้ำตาลทรายขาวประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ โดยไม่ต้องใช้น้ำ

6.ทำให้เกิดอารมณ์รุนแรง เช่น โกรธ ตื่นเต้น หรือกลัว

7.ถ้าลองทำทั้งข้อ 1-6 แล้วไม่ดีขึ้น อาจจะต้องไปพบแพทย์เพื่อใช้ยาบางตัวช่วย เช่น Lagactil,Baclofen หรือกลุ่มยาช่วยย่อย เช่น Cisapride,Omperazole เป็นต้น


แฟชั่นอินเทรนด์ "กระเป๋าโน้ตบุ๊ก"

แฟชั่นอินเทรนด์ "กระเป๋าโน้ตบุ๊ก"

กระเป๋าโน้ตบุ๊ก มีให้เลือกทั้งแบบสะพายข้าง สายสั้น-ยาว หรือเป็นแบบกระเป๋าเป้สะพายติดหลัง โดยเหล่านักออกแบบเติมความเป็นแฟชั่นเข้าไปได้อย่างลงตัว จนทำให้บางแบบดูไม่เหมือนกระเป๋าที่ใช้ใส่โน้ตบุ๊กแม้แต่น้อย



ภายในกระเป๋า ถูกออกแบบให้มีช่องใส่สัมภาระหลายแห่ง เพื่อเก็บอุปกรณ์เสริมต่างๆ มีสายล็อคเพื่อยึดตำแหน่งโน้ตบุ๊ก ที่สำคัญยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับใส่กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องสำอาง ให้ผู้ใช้เก็บทุกอย่างไว้ได้ด้วยกระเป๋าเพียงใบเดียว

วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

แยมโรล



วิธีทำแยมโรลแบบง่ายๆ
ส่วนผสม
น้ำตาล ๓/๔ ถ้วย ร่อนซะหน่อยค่ะ
การร่อนแป้ง ถ้าไม่ใช่แป้งเค้ก ร่อนซัก ๓ ครั้งค่ะ ถ้าเป็นแป้งเค้กก็ร่อนครั้ง เดียวพอหลังจากที่ร่อนแล้วตวงเอา ๓/๔ ถ้วย แล้วเอามาร่อนพร้อมกับผงฟู ๓/๔ ช้อนชา และเกลือ ๑/๒ ช้อนชา พักไว้ ค่ะ
ไข่ ๔ ฟอง
วานิลา ๑ ช้อนชา
แยมสำหรับทำไส้
น้ำตาลป่นนิดหน่อย ซัก ๒-๓ ช้อน โต๊ะค่ะ เอาไว้โรยบนผ้าขาวที่จะวางขนม

วิธีทำ
1.แยกไข่ขาว ไข่แดง พักไข่แดง ไว้ก่อน นำไข่ขาวไปตีจนขึ้นฟู ไข่ขาวที่ตีแล้ว เอาออกใส่ชามพักไว้ค่ะ

2.ตีไข่แดงให้ขึ้นเป็นสีครีม ค่อยๆ ใส่น้ำตาลที่ร่อนและตวงเตรียมไว้จน หมด ตีจนขึ้นเป็นสีนวล แล้วเติมวานิลา ค่ะ ตีต่อจนเข้ากัน

3.ค่อยๆคนแป้งที่ตวงและร่อน พร้อมกับผงฟูและเกลือไว้ลงไปใน ไข่แดงที่ตีจนขึ้นเมื่อกี๊นี้ ค่อยๆคนจนเข้ากัน

4.ค่อยๆคนไข่ขาวที่ตีไว้ลงไป ค่อยๆคน จากก้นชามขึ้นนะคะ คนพอให้เข้ากัน อาจยังเห็นไข่ขาวเล็กน้อยก็ได้ค่ะ

5.ใช้ถาดอบคุกกี้นะคะ คือถาดที่แบนๆค่ะ ทาเนยขาวที่ก้นถาด แล้วเอากระดาษ สำหรับรองอบขนมที่เรียกว่า Parchment paper ทาเนยขาวก้นกระดาษอีกที

6.เทขนมที่ตีไว้ให้ทั่วก้นถาด พยายาม เกลี่ยให้ถึงมุมทุกมุม เกลี่ยๆ พอเรียบ

7.อบไฟ ๓๗๕ องศาฟาเรนไฮต์ แค่ ๑๒ นาที คอยดูพอให้เป็นสีนวลสวยค่ะ อย่าให้เกรียม เดี๋ยวม้วนยาก

8.พอออกมาก็คว่ำลงบนผ้าขนหนูสะอาด โรยด้วยน้ำตาลป่นนะคะ ลอกกระดาษ ออกค่ะ ใช้มีดขลิบริมออก นิดเดียวก็พอค่ะ แค่ตัดขอบที่แข็งๆออก จะได้ไม่แตกเวลาม้วน

9.ใช้ผ้าที่รองขนมอยู่ ช่วยม้วนเพื่อให้ ม้วนได้ง่ายหลังจากที่ทาไส้นะคะ หลังจากนั้นคลี่ออก

10.ถ้าเป็นแยมทาได้ เลย ถ้าเป็นครีม รอให้ขนมเย็นสนิทก่อน ไม่ต้องทาหนา เดี๋ยวเลอะออกมา

11.ทาเสร็จก็ม้วนอีกที ม้วนแล้ว วางให้ตะเข็บ ลงทิ้งไว้ให้อยู่ตัว เวลาหั่น ใช้มีดคมๆ เช็ดมีด หลังจากหั่น จะได้ไม่เปื้อนชิ้นต่อไป

12.เสริฟ